กำเนิดเทพเจ้า กรีก-โรมัน

ชาวกรีกนับถือเทพเจ้ามากมายหลายพระองศ์ ทั้งเทพเจ้าบนสวรรค์และเทพเจ้าที่อาศัยอยู่บนผืนดิน  ภายหลังเมื่อชาวกรีกเสื่อมอำนาจลง  และชาวโรมันเรืองอำนาจขึ้นแทนที่และรับเอาความเชื่อเรื่องเทพเจ้ากรีกสืบไปด้วย
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงแต่ก็มีเพียงเทพแต่เจ้าแต่ละองศ์ได้เปลี่ยนชื่อจากภาษากรีกเป็นภาษาโรมันหรือภาษาละตินซึ่งบางชื่อก็ได้กลายเป็นรากศัพท์ของคำภาษาอังกฤษที่ใช้มาถึงจนปัจจุบันนี้
ตามบทกวีของฮีสิออด(Hesiod)  กล่าวว่า…
ในอดีตกาล สรรพสิ่งทั้งหลายยังรวมตัวกันเป็นกำพืดเดียว ที่ที่เป็นความว่างเปล่าปราศจากรูปเวิ้งว้างเรียกว่า เคออส(Chaos)
ต่อมาโลกพิภพ(ผืนแผ่นดิน)จึงผุดขึ้นมาในความเวิ้งว้างนั้น  เป็นดั่งฐานอันกว้างใหญ่ไพศาล  เพื่อเป็นจอมมารดาของสรรพสิ่งทั้งปวงเรียกว่า  กาอียา
มีสวรรค์ดารดาษด้วยดวงดาวล้อมลอบเรียกว่ายูเรนัส  และนับถือยูเรนัสเป็นจอมบิดาแห่งสรรพสิ่ง
แต่กวีชั้นหลัง เช่น กวัโรมันชื่อโอวิด(Ovid) เล่าถึงการกำเนิดทวยเทพและโลกพิสดารกว่าของฮีริออดมาก
โอวิดว่า…
เทพเจ้าองค์แรกสุดชื่อ  เคออส มีชายาชื่อ น็อกซ์ ซึ่งเป็นเทวีแห่งราตรี  ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน คือ  เอรีบัส เทพแห่งความมืด
เอรีบัสขับไล่เคออสผู้เป็นบิดาไปและให้มารดาเป็นชายา ไม่นานนอกซืให้กำเนิดบุตรธิดา 2องค์
คือ อีเธอร์ แสงสว่าง และ เฮเมอร่า กลางวัน
แต่แล้วประวัติศาสตร์ก็ซำรอย ทั้งสองขับไล่บิดามารดาไป และขึ้นครองอำนาจแทนที่ และแสงสว่างกับกลางวันก็แต่งงานกัน
เมื่อความมืดถูกขับไล่ไปและมีแสงสว่างของกลางวันปรากฎภาพอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่มิมีที่สิ้นสุดเป็นครั้งแรก   อีเธอร์และเฮเมอร่าพิจารณาดู เห็นว่าสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามขึ้นได้มากมายท่ามกลางความสับสนอลม่านนี้
จึงเรียกกามเทพอีรอสหรือ คิวปิดมาช่วยงาน
(การกำเนิดของคิวปิดมีด้วยกันหลายตำนาน บ้างก็ว่าป็นโอรสของวีนัสกับจูปิเตอร์แต่ในตำนานตอนนี้เป็นโอรสของเอรีบัสกับนอกซ์ ซึ่งถ้ากล่าวตามนี้ เอรีบัสกับนอกซ์ก็มีโอรสธิดารวมกัน 3องค์)
เทพเจ้าทั้งสามจึงร่วมแรงช่วยกันเนรมิตโลกและทะเลขึ้นมาก่อน ซึ่งในตอนแรกพื้นพิภพยังไม่มีพืชหรือสัตว์เกิดขึ้น ทุกแห่งล้วนเงียบเหงา  คิวปิดเห็นข้อบกพร่องนี้ จึงเอาลูกธนูประสิทธิ์ประสาทชีวิตยิงลงพื้นพิภพ บันดาลให้เกิดต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีขึ้น  มีสัตว์ต่างๆเกิดตามมา  ทำให้สรรพสิ่งมีชีวิตชีวา
เรียกว่า มีทั้งพืชทั้งสัตว์พร้อมแต่ยังขาดเพียงมนุษย์เท่านั้น
ขณะนั้นทั่วทั้งจักรวาลมีความมืดมด  ว่างเปล่า และเงียบสงัด
เวลาผ่านไปช้านาน… ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกที่เกิดขึ้นมาในความมืดมิดนั้น ก็คือความรัก(Eros)
ความรักปรากฎขึ้นจากความมืด  และสร้างสรรค์แสงสว่างสีทองอันเลื่อมพรายขึ้น
แสงสว่างสีทองนี้คือดวงอาทิตย์!
พอมีแสงสว่าง ก็มีทิวา(Hemera)
เมื่อมีทิวา มีแสงสว่าง ก็สามารถแลเห็นสิ่งที่เคยอยู่ในความมืดอันสับสนนั้น
สิ่งนั้นคือโลก
เมื่อพิภพกาอียากับสวรรค์ยูเรนัสเกิดขึ้น  ในไม่ช้าก็ยึดอำนาจจากอีเธอร์กับเฮเมอร่า  ผู้ให้กำเนิดบ้าง   และพิภพกับสวรรค์ก็แต่งงานก้น
มาถึงยุคเจ้าแม่กาอียา กับเจ้าพ่อยูเรนัสครองอำนาจ เทพเจ้าก็เปลี่ยนจากนามธรรม มาเป็น
บุคลาธิษฐาน คือเปลี่ยนจากธรรมชาติมาเป็นบุคคลมีตัวตน
กาอียาและยูเรนัสมีรูปร่างใหญ่และเถลิงอำนาจอยู่ที่ยอดเขาโอลิมบัส    และมีโอรสและธิดาร่างใหญ่มหึมารวมกัน12  องค์
เป็นเทพบุตร  6 องค์คือ โอเชียนัส   ซีอัส  ครีอัส  ไฮเพอเรียน  ไอแอพิทัส และโครนัส
เป็นเทพธิดา  6 องค์คือ  อิเลีย  รีอา  ธีมิส  ธีทิส  เนโมโซนี  และฟีบี
เทพและเทวีร่างยัษ์ทั้ง 12องค์นี้เรียกรวมกันเป็นคณะว่า คณะเทพไตตัน(Titan)
ซึ่งต่อมาเป็นที่มาของคำว่า ไตตานิค  ที่แปลว่าใหญ่มหึมา
ยูเรนัส กลัวความใหญ่โตทรงพลังของลูกๆจึงจับทั้งหมดขังไว้ในเหวลึกใต้บาดาลมืดสนิทที่เรียกว่า  ทาร์ทะรัส  เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกคนใดตั้งตัวเป็นศัตรูกับตนได้
หลังจากขังลูกๆของตนเรียร้อยแล้ว ยูเรนัสก็สบายใจว่าไม่มีใครมายึดอำนาจจากตนได้แล้ว
แต่ก็สบายใจได้ไม่นาน!
เพราะโอรสชุดต่อมาของกาอียาและยูเรนัสเป็นยักษ์ 50 หัว 100 แขน มีด้วยกัน 3 พี่น้อง ชื่อ
คอตทัส  เบรียรูส  และไกจีส
ยูเรนัสก็จับลูกๆชุดนี้โยนลงไปขังในทาร์ทะรัสตามเคย
แต่เดี่ยวก่อนเรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้
กาอียาตั้งครรถ์อีก
คราวนี้คลอดโอรสเป็นยักษ์ไซคลอปส์ เป็นยักษ์ตาเดียว มีลูกนัยตาไฟอยู่ตรงกลางหน้าผาก
อีก 3 ตนพี่น้องคือ ฟ้าลั่นบรอนทีส  ฟ้าแลบสเทอโรพีส และแสงสว่างวาบอาร์จีส
แล้วเสด็จป๋าก็จับเอาลูกๆผู้น่าร้ากชุดล่าสุดโยนลงในทาร์ทะรัสตามเคย
เมื่อยักษ์ไซคลอปส์ทั้ง 3 ตนลงไปถึงคุกใต้ดินบาดาลก็ทำให้คุกสว่างไสวไปทั่ว
แสงสว่างขับไล่ความมืดมิด  สิ่งไท่ม่เคยเห็นก็ทำให้เห็นได้ ช่วยให้คณะเทพไตตันเกิดความกล้า
และคิดอยากเป็นอิสระจากที่คุมขัง
ฝ่ายพระนางกาอียาไม่พอใจที่ยูเรนัสทำกับลูกๆเช่นนี้   จึงตัดสินใจลงไปใต้บาดาลยุยงให้บรรดาลูกๆทำการยึดอำนาจจากยูเรนัส
ซึ่งโครซัส โอรสองค์เล็กตอบรับ
พระนางกาอียาจึงปล่อยให้โครนัสหลุดจากพันธณาการ มอบเคียวให้เป็นอาวุธ แล้วส่งโอรสขึ้นมาจากทาร์ทะรัส
โครนัสถืออาวุธเข้าโจมตีพระบิดาโดยที่ยูเรนัสยังไม่ทันรู้ตัว จึงสามารถรับชนะมหาเทพ
ยูเรนัสได้สาปแช่งโครนัสว่า  ให้ลูกๆของโครนัสแย่งอำนาจมาจากโครนัสเช่นเดียวกัน
หลังจากยึดอำนาจจากผู้เป็นบิดาแล้วก็ปล่อยพี่น้องทั้งหมดให้เป็นอิสระ
ทุกคนต่างปิติยินดีและยกให้โครนัสเป็นใหญ่
เมื่อโครนัสขึ้นครองเทพบัลลังก์ ณ เขาโอลิมบัส  และเลือกพระน้องนางรีอา เป็นมเหสี
จึงแบ่งสัตส่วนของพิภพให้บรรดาพี่น้องปกครองเช่น
โอเชียนัส กับ ธีทิส ปกครองมหาสมุทรและแม่นำทั้งปวง
ธีมิส  เป็น เทวีครองความยุติธรรม
เนโมซินี เป็นเทวีครองความจำ
เป็นต้น
และโครนัสก็ปกครองพิภพและสวรรค์สงบสุขสืบมา

ที่มา:http://writer.dek-d.com